วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

พ่อแม่ควรใกล้ชิดลูกแก้ปัญหา ติดเน็ต ติดเกม ช่วงปิดเทอม

ต้องยอมรับว่าปัญหาเด็ก และเยาวชนไทยติดอินเทอร์เน็ต และเกม เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายทั้งภาครัฐ นักวิชาการ และเครือข่ายผู้ปกครอง พยายามแก้ไขกันมาต่อเนื่อง หลังจากที่มีข่าวเกี่ยวกับภัยจากสื่อออนไลน์ หรืออาชญากรรมอื่นๆ ใช้ความรุนแรง ถูกนำเสนอตามสื่อต่างๆ ไม่เว้นในแต่ละวัน อาทิ การใช้เว็บไซต์ไฮไฟว์ล่อลวงเด็ก และวัยรุ่นชาย-หญิง ไปล่วงละเมิดทางเพศ หรือข่มขืนกระทำชำเรา แล้วถ่ายรูปไว้แบล็กเมล์เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย การเปิดเว็บไซต์เพื่อขายยาเสพติด ยาทำแท้ง การพนัน และการโพสรูปภาพลามก อนาจาร หรือคลิปหลุดต่างๆ
จากปัญหาเหล่านี้ กลายมาเป็นความความห่วงใยของ นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้สั่งกำชับให้ ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ติดตามเฝ้าระวังปัญหาเยาวชนในช่วงปิดภาคเรียน เกี่ยวกับการติดเกม สื่อลามก ให้เข้มข้นขึ้นจากที่มีความเข้มข้นอยู่แล้ว รวมทั้งยังขอให้ผู้ปกครองและประชาชนทั่วไปที่พบเห็นปัญหาเยาวชน ได้ร่วมกันเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสมาทางเว็บไซต์ www.me.in.th เพื่อไม่ให้เยาวชนไทยมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าว นายประวิทย์ หลักบุญ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 4 รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 4 ได้กำชับผู้บริหารสถานศึกษา ระมัดระวังในปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรียน อาทิ การล่อลวง ต้มตุ๋นผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยให้ทุกคนได้ชี้แจงถึงเล่ห์เหลี่ยม การล่อลวงทางสื่ออินเทอร์เน็ตให้นักเรียนได้รับทราบ และแนะแนวทางป้องกันให้กับนักเรียน เพราะขณะนี้ โรงเรียนส่วนมากมีการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ การรับ-ส่งอีเมล์ โดยหากนักเรียนใช้ไปในทางไม่ถูกต้อง อาจเป็นภัยแก่ตัวเองทั้งชีวิต ทรัพย์สิน
นางสาวกรกนก สำเนากลาง ผู้ประสานงาน ศูนย์เฝ้าระวังภัยเทคโนโลยี มูลนิธิกระจกเงา อธิบายถึงปัญหาภัยออนไลน์ในช่วงปิดเทอมว่า ช่วงปิดเทอมใหญ่ฤดูร้อนเป็นเวลาที่ เด็กและเยาวชนมีโอกาสหายออกไปจากบ้านได้ เนื่องจากมีเวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตนานขึ้น แต่ส่วนมากจะหนีไปอยู่ที่ร้านเกม ไม่กลับบ้านจนกว่าเงินจะหมด แต่เท่าที่สำรวจ 3 เดือนที่มากมีเด็กหายไม่ถึง 10 รายจากปัญหานี้ ส่วนปัญหาการล่อลวงผ่านโปรแกรมแชท หรือเว็บไซต์ไฮไฟว์ ส่วนมากจะเป็นการตามไปกับเพื่อนๆ มากกว่า การถูกล่อลวงไปข่มขืน แต่บางรายก็หายออกจากบ้านแบบเต็มใจกับผู้ชายมากหน้าหลายตา
ผู้ประสานงาน ศูนย์เฝ้าระวังภัยเทคโนโลยี อธิบายต่อว่า คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองในการดูแลบุตร หลานในช่วงปิดเทอม เพื่อให้เด็กและเยาวชนปลอดภัยจากการถูกล่อลวง หรือหายออกไปจากบ้าน พ่อแม่ต้องพูดคุยกับลูกมากขึ้น ที่ผ่านมาพ่อแม่อาจไม่มีเวลาดูแลลูก เพราะต้องทำงาน แต่ช่วงเช้าก่อนไปทำงานควรมีเวลาพูดคุยกับลูก หากลูกจะออกไปนอกบ้าน ควรถามว่านัดใคร ไปกับเพื่อนกลุ่มไหน หากลูกเล่นเกม หรืออินเทอร์เน็ต ต้องจัดแบ่งเวลาเล่น และกิจกรรมอื่นๆ ด้วย พ่อแม่ต้องปรับตัวเข้าหาเด็ก การพูดคุยในลักษณะเหมือนเพื่อน ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรง หรือ ดุด่า ใช้เหตุผลและความเข้าใจ และต้องให้เด็กระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัวผู้อื่น เช่น อีเมล์ หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งระวังตัวในการไปพบเพื่อน ไม่ควรให้ไปคนเดียว
ด้าน นางศรีดา ตันทะอธิพานิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และเว็บไซต์ไทยฮอตไลน์ดอทโออาร์จี ให้ความเห็นถึงภัยออนไลน์ในช่วงปิดเทอมว่า จากที่ได้พูดคุยกับเครือข่าวผู้ปกครองทั่วประเทศ ยอมรับว่าช่วงปิดเทอมเด็ก และเยาวชน เล่นเกมมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีเวลาว่างอยู่กับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน โดยที่ไม่มีคนดูแล เนื่องจากผู้ปกครองต้องออกนอกบ้านไปทำงาน โดยช่วงปิดเทอมยิ่งต้องเอาใจใส่ และจับตาดูบุตรหลานมากขึ้น รวมทั้งต้องวางแผนจัดกิจกรรมให้กับลูก เพราะเมื่อเด็กไม่มีอะไรทำ เขาจะไปเล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ต ดังนั้น ควรจัดตารางเรียนพิเศษ หรือพาไปเข้าค่ายกิจกรรมอื่นๆ บ้าง
ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย อธิบายอีกว่า การดุด่า หรือจับผิดลูกไม่มีประโยชน์ พ่อแม่ต้องทำการบ้านหาข้อมูลที่เรียนพิเศษ หรือกิจกรรม ค่ายเยาวชน อาทิ ค่ายศิลปะ ค่ายอบรมถ่ายภาพ หรือเขียนโปรแกรมแอนิเมชัน แต่ต้องไม่ลืมว่าการเรียนมากๆ ทำให้เด็กเครียดต้องมีกิจกรรมบันเทิง เพื่อผ่อนคลาย รวมถึงการพาไปเยี่ยมญาติ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย โดยการให้จัดตารางเวลาช่วงปิดเทอม จะเป็นการฝึกให้บุตร หลานได้ทำงานตามเป้าหมาย ช่วยในการบริหารเวลา ที่ผ่านมาพ่อแม่จำนวนไม่น้อยใช้เงินเลี้ยงลูก ทิ้งเงินก้อนใหญ่ให้ลูกใช้จ่าย ตรงนี้ก็ทำให้เด็กมีพฤติกรรมใช้จ่ายเกินตัวด้วย
นางศรีดา อธิบายเพิ่มเติมว่า หรือบางรายฝากลูกไว้กับร้านเกม ก็ทำให้เล็กติดเกมอีก เนื่องจากน้านก็ต้องการให้เด็กเล่นนานๆ เห็นได้จากอุปกรณ์อำนวยความสะดวก บริการน้ำ อาหาร แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรวางใจฝากลูกให้คนอื่นดูแล ส่วนภายในบ้านต้องจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม อาทิ การจัดโทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ไว้กลางบ้าน ในจุดที่คนมองเห็นง่าย ไม่ใช้เวลากับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป ทั้งนี้แทนที่จะจ่ายเงินเพื่อความบันเทิง แต่นำเงินส่วนนั้นมาสมัครค่ายอบรมต่างๆ ในช่วงปิดเทอมให้ลูกจะดีกว่า อย่างน้อยเขาสามารถนำความรู้จากการอบรมมาใช้ชีวิตประจำวันได้
ช่วงเวลาปิดเทอมเป็นโอกาสทองของเด็กๆ ที่จะได้พักผ่อนหลังจากคร่ำเคร่งกับการเรียนมาตลอดปี แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องระวัง และเอาใจใส่บุตรหลานอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน จะฝากความหวังให้รัฐบาล หรือ โรงเรียนดูแลตลอดไปไม่ได้ เพราะครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในการอบรม และให้ความรัก ความอบอุ่น การเอาใจใส่และพยายามพูดคุยกับบุตรหลาน เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ จะช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจและรู้จักเพื่อน และสังคมของลูก อันจะทำให้เราป้องกันภัยออนไลน์ต่างๆ ที่หวังจะเข้ามาล่อลวง หรือ หลอกให้บุตรหลานไปในทางที่ไม่เหมาะสมได้ ดังนั้น ยังไม่สายที่ทุกครอบครัวจะหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน และหากิจกรรมให้กับเด็กและครอบครัวใช้เวลาร่วมกัน มากกว่าปล่อยให้ลูกเล่นเกมทั้งวัน แล้วกลายเป็นเด็กติดเกมที่แก้ไขยากในอนาคต...

บมความจาก : ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น